“ศรีไทยฯ” คาดสิ้นปีโต 2 DIGIT ปักหมุดรุก EV & Medical Device

“สนั่น” บิ๊ก “ศรีไทยฯ” เผยปีนี้โตแรงกำไรดีขึ้นปัจจัยสำคัญมาจากการ​ “Transform องค์กร” บวกแรงหนุนจากตลาดต่างประเทศชี้เวียดนามสุดบูมเตรียมเปิดใช้โรงงานแห่งที่ 4 ไตรมาส 2 ปีหน้า ก่อนลงทุนเพิ่มเปิดโรงงานใหม่ต่อเนื่องทันที​ เร่งจับมือพันธมิตร “จีน-ญี่ปุ่น”แตกไลน์สู่สินค้าเมกะเทรนด์ ​“EV & Medical Deviceส่วนผลประกอบการสิ้นปี 2565 เชื่อโตไม่ต่ำกว่า 2DIGIT

สนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SRITHAI เปิดเผยว่า หลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย และรัฐบาลมีนโยบายเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นทำให้แนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยในไตรมาสที่ 4 เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นมาก เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันใน 2- 3 ปี ที่ผ่านมา

ทั้งนี้คาดว่าการท่องเที่ยวในไตรมาส 4GDP น่าจะโตไม่ต่ำกว่า 4% เพราะการท่องเที่ยวและบริการมีแนวโน้มที่ดีขึ้น​ โดยเฉพาะเดือนตุลาคม–ธันวาคมปีนี้ ซึ่งทั้งปีมีโอกาสที่นักท่องเที่ยวจะเข้ามาในประเทศประมาณ 9-10 ล้านคน และจะช่วยหนุนให้ GDP ของประเทศไทยปีนี้เติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 3% แม้จะมีวิกฤติอย่างสงครามหรือน้ำท่วมก็คาดว่าจะเกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจอยู่ที่ประมาณ 22,000 ล้านบาท และการส่งออกของไทยก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยคาดว่าน่าจะเติบโตได้ประมาณ 7-8% ดังนั้นภาพรวมของเศรษฐกิจไทยในปีหน้าย่อมเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นแน่นอน

ส่วนทางด้านการเติบโตของศรีไทยซุปเปอร์แวร์ฯ ได้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในธุรกิจที่ยืนหยัดและผ่านพ้นวิกฤติมาได้ด้วยศักยภาพและความสามารถในการบริหารจัดการของผู้บริหารและพนักงานทุกคน ท่ามกลางความท้าทายและสถานการณ์เศรษฐกิจรอบด้าน โดยในปี 2565 บริษัทมีทิศทางการเติบโตที่ดีมากขึ้นและสามารถทำกำไรได้ดีขึ้นผลมาจากการทุ่มเทและความพยายามในการปรับโครงสร้างและปฏิรูปองค์กรด้วยการถอดบทเรียนจากผลกระทบสถานการณ์โควิดใน 2-3 ปีที่ผ่านมา ทำให้สามารถพลิกสถานการณ์จนสร้างผลกำไรที่น่าพอใจได้ด้วยการส่งเสริมบุคลากรและนำระบบที่เกี่ยวข้องกับวิศวกรรม​ นวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาเพิ่มในองค์กรอย่างต่อเนื่องมีการพัฒนาทั้งเรื่องบุคลากรและเทคโนโลยีควบคู่กันไป

“การปรับเปลี่ยนเรื่องคนถือว่าสำคัญมาก เราเรียกว่า Succession Plan ที่ผ่านมาจึงมีการนำคนรุ่นใหม่ เช่น วิศวกรและคนที่เก่งในเรื่องของเทคโนโลยีเข้ามาเสริมทัพในองค์กรเป็นจำนวนมาก เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้ทีมงานร่วมกันพัฒนางานและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานของธุรกิจและองค์กรที่สำคัญเพื่อทดแทนคนรุ่นเก่าที่เกษียณออกไปด้วย”

ประธานกรรมการศรีไทยฯ กล่าวต่อว่า ขณะที่ตลาดต่างประเทศมีการเติบโตที่ดีมาก อย่างเช่น เวียดนาม ที่มีการขยายตัวตามแผนงานด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ และการสร้างโรงงานแห่งใหม่ เป็นแห่งที่ 4 ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดดำเนินงานได้ภายในไตรมาส 2 ของปี 2566 เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจผลิตภัณฑ์เมลามีน ซึ่งหากแล้วเสร็จศรีไทยฯ ก็จะสร้างโรงงานใหม่อีกแห่งต่อเนื่องทันที เพราะเศรษฐกิจภายในประเทศเวียดนามมีการเติบโตที่ดีมากและเป็นฐานการผลิตสำคัญที่จะส่งออกสินค้าไปยังประเทศอื่นได้เป็นอย่างดีเนื่องจากมีความได้เปรียบทาง FTA เพราะจำนวนประเทศที่เวียดนามทำ FTA มีมากกว่าประเทศไทยเกือบ 3 เท่า จึงช่วยให้เวียดนามส่งออกสินค้าไปหลายประเทศในอัตราภาษีที่ดีมากกว่าของไทยขณะที่ตลาดในประเทศอินเดียและอินโดนีเซีย ก็มีการเติบโตไปในทิศทางที่ดีมากเช่นเดียวกัน

“นอกจากนี้ศรีไทยฯ ยังมองไปในอนาคต ด้วยการพัฒนาโครงการการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองต่อแนวโน้มของตลาดใหม่ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์ทางการแพทย์และรถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยในปีหน้าคาดว่าการเจรจาข้อตกลงกับพันธมิตรใหม่จากจีนและญี่ปุ่นจะแล้วเสร็จ หลังจากที่เคยมีการเจรจากันมาแล้วในช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิดก่อนจะหยุดชะงักไป ขณะนี้ทุกอย่างฟื้นตัวแล้วจึงถือเป็นโอกาสทางธุรกิจใหม่ที่ดีมาก​ ส่วนยอดธุรกิจในสิ้นปีนี้คาดว่าจากปัจจัยบวกและกลยุทธ์ทุกอย่างน่าจะทำให้ศรีไทยฯ มีอัตราการเติบโตในปี 2565 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนไม่ต่ำกว่า 2DIGIT   สนั่น กล่าว

อย่างไรก็ตามสำหรับข้อมูลทางการเงินจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยบริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน)ในปี 2562 มีรายได้อยู่ที่ 8,846 ล้านบาทกำไรขั้นต้น 764 ล้านบาท ปี 2563 มีรายได้อยู่ที่ 6,873 ล้านบาทกำไรขั้นต้น 714 ล้านบาทและปี 2564มีรายได้อยู่ที่ 7,510 ล้านบาทกำไรขั้นต้น 927 ล้านบาท

 

 

 

Loading