“ดร.ฐัช” คีย์แมนไฟแรง J&C กับบทบาทใหม่ YEC ในนามหอการค้าไทย

การขับเคลื่อนพัฒนาแพลตฟอร์ม (J&C Platform) ให้เป็น Social Platform แพลตฟอร์มสร้างอาชีพเพื่อสังคมที่สามารถเชื่อมโยงผู้ผลิต ผู้ขาย ผู้ซื้อในชุมชนให้มีผลประโยชน์ร่วมกัน แบบเครือข่ายรูปแบบใหม่ภายใต้การทำร้านค้าสร้างอาชีพเพื่อชุมชน J&C imart ให้เป็นที่ประจักษ์ถึงความสำเร็จมาโดยตลอดและพร้อมเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ ที่เข้ามาให้เรียนรู้ได้อยู่เสมอโดยเฉพาะกับอีกหนึ่งบทบาทใหม่ในนามหอการค้าไทยและสภาหอการค้าไทยที่ “ดร.ฐัช” ได้เข้าไปมีส่วนร่วมทำงานอยู่ในกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ YEC (Young Entrepreneur chamber of commerce) ของหอการค้าไทย ทั้งในตำแหน่งอนุกรรมการ YEC Thailand, ตำแหน่งกรรมการ YEC Connect International และตำแหน่งรองประธานกรรมการ YEC Digital Network

ดร.ฐัช หัชลีฬหา ผู้ช่วยประธานกรรมการบริหาร บริษัท จอย แอนด์ คอยน์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (J&C) กล่าวถึงรายละเอียดและบทบาทหน้าที่ที่รับผิดชอบว่า YEC (Young Entrepreneur chamber of commerce) เป็นการรวมกลุ่มของนักธุรกิจรุ่นใหม่ในนามหอการค้าไทยและหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งเขารับผิดชอบดูแลอยู่หลายส่วนไม่ว่าจะเป็นในส่วน YEC กรุงเทพฯ ที่ทำงานร่วมกับคณะทำงานของหอการค้าไทย และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ชัชชาติ สิทธิพันธุ์) และในแต่ละเดือนจะมีการประชุมหารือเกี่ยวกับด้านเศรษฐกิจ สังคมและเทคโนโลยีต่าง ๆ ร่วมกันกับภาครัฐและผู้ว่าราชการจังหวัด รวมถึงการทำงานในคณะกรรมการ การเชื่อมโยงผู้ประกอบการหอการค้าทั่วโลก หรือ YEC Connect ที่เป็นจุดเชื่อมต่อของนักธุรกิจไทยและต่างประเทศผ่านเครือข่ายหอการค้าทั่วโลก และการทำงาน ในส่วนที่เป็นการพัฒนาดิจิทัลของประเทศไทย YEC Digital Network

อีกทั้งล่าสุดยังเป็นตัวแทนคณะทำงานเชื่อมโยงผู้ประกอบการหอการค้าทั่วโลกที่ได้รับเชิญให้ไปศึกษาดูงานในประเทศจีน จากการที่รัฐบาลจีนสนับสนุนทุนให้นักธุรกิจรุ่นใหม่ได้เข้ามาศึกษาวิธีการพัฒนาประเทศจีน ที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดภายใต้การอบรมสัมมนาตลอดระยะเวลา 15 วัน (ระหว่างวันที่ 11-27 กรกฎาคมที่ผ่านมา) ที่เมืองปักกิ่ง ประเทศจีน โดยทางสถานทูตจีน ประจำประเทศไทยเป็นผู้พิจารณาคัดเลือกรายชื่อผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่เข้าร่วมโครงการนี้ว่ามีความเกี่ยวข้องกับการขยายธุรกิจในประเทศจีนด้วยหรือไม่อย่างไร ซึ่งในส่วนนี้สำหรับ J&C ก็ถือเป็นหนึ่งในธุรกิจไทย ที่จดทะเบียนการค้าในเมืองกว่างโจวอย่างเป็นทางการจึงมีความเกี่ยวข้องโดยตรง

ดร.ฐัช กล่าวต่อว่า ตลอดระยะเวลา 15 วัน ที่ได้เข้าร่วมการอบรมสัมมนาที่เมืองปักกิ่งก็จะเป็นการเรียนรู้ เกี่ยวกับเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมจีน และการดูงานทางด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่ อาทิ เทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ (Health Tech), เทคโนโลยี ทางการแพทย์ (Machine Learning), เทคโนโลยีหุ่นยนต์ (Robot) ในอุตสาหกรรมเครื่องจักรผลิตรถยนต์, เทคโนโลยีโรงงานที่ผลิตสิ่งก่อสร้างสมัยใหม่ เป็นต้น นอกจากนี้ยังเดินทางไปเมืองเสิ่นหยาง เมืองเอกของมณฑลเหลียวหนิง เพื่อร่วมพูดคุยหารือเกี่ยวกับการค้าการลงทุนระหว่างเมืองเสิ่นหยางกับประเทศไทยอีกด้วย คณะที่เดินทางไปดูงานครั้งนี้รวม 32 คน โดยผมเป็นตัวแทน YEC กรุงเทพฯ นอกจากจะพูดคุยการค้าการลงทุนระหว่างเมืองเสิ่นหยาง กับประเทศไทยแล้วเรายังได้รับเกียรติได้เข้าพบผู้ว่ามณฑลเหลียวหนิง Mr.Gu Zhaowen เพื่อหารือร่วมกัน ทั้งในเรื่องการค้าการขยายธุรกิจและความร่วมมือในอนาคตระหว่างผู้ประกอบการไทยและเมืองเหลียวหนิง โดยผู้ว่ามณฑลเหลียวหนิงสนใจอยากนำสินค้า เข้ามาทำตลาดในไทยพร้อมกับเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้เข้ามาขยายธุรกิจด้วยเช่นกัน และในเดือนสิงหาคมนี้ทางคณะผู้ประกอบการของเมืองเสิ่นหยางก็จะเดินทางมาดูงานที่กรุงเทพฯ คาดว่าจะเกิดความร่วมมือที่ดีระหว่างกัน

อย่างไรก็ดี จากการเป็นตัวแทน YEC กรุงเทพฯ เข้าร่วมเดินทางไปอบรมสัมมนาดูงานที่ประเทศจีน
ในครั้งนี้สำหรับ ดร.ฐัช มองว่าเป็นการได้เรียนรู้แนวทางการเปิดประเทศของจีนที่เปิดให้ต่างชาติ โดยเฉพาะในอาเซียนได้เข้ามาลงทุนมากขึ้นสอดรับกับการสนับสนุนช่องทางการค้าระหว่างประเทศให้สามารถทำได้ง่ายขึ้นมาก เช่น การลดภาษี, การอำนวยความสะดวกในการขนส่ง, การมีเขตเศรษฐกิจพิเศษในการไม่เก็บภาษีเมื่อก่อตั้งบริษัทในเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งนั่นหมายความว่าโอกาสในการ เข้าไปทำธุรกิจในประเทศจีนก็มีมากขึ้น รวมถึงในส่วนของธุรกิจ J&C ที่ได้จดทะเบียนการค้าในเมืองกว่างโจว และมองโอกาสในการขยายธุรกิจร่วมกันกับเมืองเสิ่นหยางและมณฑลเหลียวหนิงไว้ด้วยเช่นกัน

Loading