“ดิเอลฟ์ ไทยแลนด์” ทุ่มงบ 50 ล้าน‼ คว้า “อั้ม พัชราภา” บุกตลาดออนไลน์

“ดิเอลฟ์ ไทยแลนด์” ผู้จำหน่ายเครื่องสำอางออนไลน์มาแรงเป็นที่น่าจับตาในธุรกิจความงาม ทุ่มงบประมาณกว่า 50 ล้านบาท หวังเจาะตลาดออนไลน์เพิ่มมากขึ้น หลังจากคว้าตัวนักแสดงสาวและนางเอกซูเปอร์สตาร์ขวัญใจมหาชน อย่าง “อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ” เป็นพรีเซ็นเตอร์ ดังสโลแกนที่ว่า “บูสเตอร์ ดิเอลฟ์ ที่อั้มเลือก” พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้ชื่อ ดิเอลฟ์ นาโน ไวท์ บูสเตอร์ (The Elf NANO WHITE BOOSTER) นวัตกรรมเพิ่มความชุ่มชื้นให้รอยแห้งกร้าน ช่วยผิวกระจ่างใสด้วยการเติมอาหารให้กับผิวเพื่อให้ผิวได้รับการฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว ตั้งเป้าขยายธุรกิจกลุ่มลูกค้าสร้างยอดขาย 1,000 ล้านบาท ภายในปี 2565

สุดารัตน์ เป็งเส้า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิเอลฟ์ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า นับตั้งแต่ปี 2561 ที่เริ่มก่อตั้งแบรนด์ดิเอลฟ์ (The elf) จนถึงปัจจุบันสามารถออกผลิตภัณฑ์วางจำหน่ายแล้วทั้งหมด 3 ตัว โดยตัวแรกชื่อว่า นาโน ไวท์ เจล (NANO WHITE GEL) เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกายเนื้อเจล ช่วยฟื้นฟูให้ผิวขาว กระจ่างใส ถัดมาตัวที่ 2 ชื่อว่า นาโน ซันสกรีน (NANO SUNSCREEN) เป็นกันแดดเนื้อโลชั่น ส่วนตัวที่ 3 ชื่อว่า นาโน ไวท์ โดส (NANO WHITE DOSE) เป็นไวท์เทนนิ่งเซรั่มบำรุงผิวกายสูตรเข้มข้น และล่าสุดผลิตภัณฑ์ตัวที่ 4 นาโน ไวท์ บูสเตอร์ (NANO WHITE BOOSTER) เป็นเนื้อครีมเข้มเข้มข้นที่จะช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงและขาวกระจ่างใส เมื่อใช้คู่กับนาโน ไวท์ โดส จะยิ่งช่วยให้ผลลัพธ์ที่ดีได้มากขึ้น

สำหรับผลิตภัณฑ์น้องใหม่ นาโน ไวท์ บูสเตอร์ (NANO WHITE BOOSTER) เป็นเนื้อครีมบำรุงผิวกายสูตรพรีเมียม สัมผัสบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมลึกและซึมไว ฟื้นฟูล้ำลึกสู่ชั้นผิว กระจ่างใส ผิวฉ่ำ เนียนชุ่มชื้น อิ่มน้ำกว่าที่เคยตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ กลิ่นหอมเฉพาะจากประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ดิเอลฟ์ ประกอบกับสารสกัดพรีเมียม 12 ชนิด
ที่ทีมนักวิจัยได้คิดค้นมาแล้วว่าปลอดภัยต่อผิวกาย และสามารถบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึกเหมาะกับทุกสภาพผิวของทุกคน

ทั้งนี้ กลยุทธ์ด้านการตลาดเน้น “ระบบฝากส่ง” ช่วยตัวแทนประหยัดเวลา ลดต้นทุน พร้อมระบบการจัดเก็บสินค้าที่ได้รับมาตรฐาน ทำให้ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ดิเอลฟ์ โดยเฉพาะ นาโน ไวท์ โดส (NANO WHITE DOSE) สามารถสร้างยอดการสั่งซื้อสินค้าได้มากกว่า 2 ล้านชิ้น ภายในระยะเวลาเพียง 1 ปี ทำให้ได้รับผลตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า ทั้งรายเดิมซื้อซ้ำแล้วบอกต่อ และรายใหม่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากในยุคการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ตลาดออนไลน์กลายเป็นที่นิยม จึงเลือกใช้กลยุทธ์การขายผ่านตัวแทนมากกว่า 500 คน ในระบบออนไลน์ ประกอบกับแบรนด์ดิเอลฟ์มีโรงงานผลิตที่ได้รับรองมาตรฐาน ดังนั้นสินค้าทุกตัวผ่านการทดสอบแล้วจากอาสาสมัครมากกว่า 100 คน หลังจากที่ได้รับการพัฒนาสูตรโดยผู้เชี่ยวชาญจนกลายเป็นสูตรที่ดีที่สุด จึงมั่นใจได้ว่าสินค้าทุกตัวมีคุณภาพและความปลอดภัย ใช้แล้วเห็นผลจริงอย่างแน่นอน นอกจากคนในประเทศจะรู้จักแล้ว ยังวางแผนการตลาดเพื่อขยายฐานลูกค้าไปสู่ตลาดต่างประเทศ โดยจะเริ่มต้นจากประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียน 10 ประเทศ เป็นลำดับต่อไป ดังนั้น ภายในปี 2565 จึงคาดหวังว่าธุรกิจจะสามารถเติบโตเพิ่มขึ้น 5 เท่า และดึงส่วนแบ่ง 10% จากตลาดสกินแคร์
“สินค้าที่ลูกค้าเกิดการซื้อซ้ำ ก็คือเรื่องของการตลาดที่ไม่เคยหยุด อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จ คือ ให้ความสำคัญกับความเสมอภาค ไม่เอารัดเอาเปรียบ ทำงานอย่างมืออาชีพและเป็นระบบ หัวใจเลยก็คือความซื่อสัตย์ ความจริงใจต่อลูกค้าและต่อตัวเอง” สุดารัตน์ กล่าวทิ้งท้าย

อย่างไรก็ดี หากใครที่สนใจผลิตภัณฑ์ของ บริษัท ดิเอลฟ์ (ไทยแลนด์) จำกัด สามารถติดต่อสอบถามผ่านช่องทางตัวแทนจำหน่ายที่มีบัตรตัวแทน (ระบบฝากส่ง) เพื่อป้องกันสินค้าลอกเลียนแบบ, LINE OA : @theelf และเฟซบุ๊กแฟนเพจ The Elf Thailand นอกจากนี้ยังสามารถเข้าไปเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ได้ที่เว็บไซต์ https://www.theelfthailand.com

Loading