“อนุช กาญฉนวน” ผู้นำรายได้สูงสุดอันดับ 2 คิงส์เฮิร์บ เวิลด์ 1999 “ปลายทางของคำว่ายาก มีความสำเร็จรออยู่เสมอ”

อนุช กาญฉนวน ผู้นำรางวัลรายได้สูงสุดอันดับ 2 ของธุรกิจเครือข่ายสีขาว บริษัท คิงส์เฮิร์บ เวิลด์ 1999 จำกัด กับการทำงานในทัศนคติที่เป็นบวกเสมอ สำหรับเขาไม่มีอะไรที่มนุษย์จะทำไม่ได้ เพราะเขาคิดว่า “ปลายทางของคำว่ายาก มีความสำเร็จรออยู่เสมอ” และนั่นจึงทำให้เขาก้าวขึ้นมาเหมือนในขณะนี้ที่ Hall of Fame ได้นำมาฝากกัน

เขาคนนี้เคยทำงานประจำในระดับผู้บริหารมาเป็นเวลาถึง 20 ปี รายได้ดีมั่นคง เลี้ยงตัวเองได้ แต่ไม่มีเวลา มารู้จักธุรกิจคิงส์เฮิร์บเพราะภรรยาทำแล้วประสบความสำเร็จ เลยมองเห็นโอกาสว่า ผลิตภัณฑ์ดี ตอบโจทย์ในเรื่องของสุขภาพ มีอิสระทางด้านเวลา โดยใช้เพียงเวลาว่างทำ จึงตัดสินใจลาออกมาทำกับ คิงส์เฮิร์บ แบบเต็มตัวเพราะคิดว่างานประจำนั้นดีสำหรับในวันนี้ แต่ถ้าเกษียณแล้วก็จะไม่มีรายได้อีกเลย

“มาร่วมธุรกิจกับ คิงส์เฮิร์บ ผมเริ่มนับหนึ่งใหม่เหมือนกับทุกคน โดยเรียนรู้ในเรื่องต่าง ๆ ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ แผนรายได้ ระบบทั้งหมด โดยใช้เวลา 3 ปี เริ่มจากเป็นผู้นำเงินแสน ผู้นำเงินล้าน ผู้นำเสื้อสามารถ จนมาถึงปัจจุบันนี้ที่ได้เป็นผู้นำรายได้อันดับ 2 อาจมีปัญหาบ้าง แต่ผมมองว่าการทำงานทุกงานมีปัญหาเหมือนกันหมด ขึ้นอยู่กับเราว่าจะมุ่งมั่น และทุ่มเทมากขนาดไหน”

อนุช บอกกับเราว่า “ธุรกิจคิงส์เฮิร์บ จ่ายค่าแรงตามความสามารถ ถ้าอยากได้มาก ก็ต้องขยัน ถ้ามีความสามารถมากพอ ก็จะได้ในสิ่งที่ตั้งเป้าหมายไว้ นั่นคือเหตุผลที่ผมต้องมีศักยภาพให้มากขึ้น ๆ เพราะเพดานรายได้ในธุรกิจนี้ไม่มีข้อจำกัด คุณมีความสามารถเท่าไหร่ก็จะได้มากขึ้นเท่านั้น ผมจึงทุ่มเท และประสบความสำเร็จขึ้นมาเหมือนในทุกวันนี้”

สำหรับเขาไม่มีอะไรยากเกินที่มนุษย์จะทำไม่ได้ สิ่งที่ยากคือความท้าทาย ที่จะมาเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาแบบไม่หยุดยั้ง คนไม่ประสบความสำเร็จคือคนที่ท้อแท้ และล้มเลิกไปก่อน ซึ่งเขาบอกว่า “ปลายทางของคำว่ายาก มีความสำเร็จรออยู่เสมอ”

“แบบอย่างที่ดี มีค่ามากกว่าคำสอน ผมจึงเน้นการลงมือปฏิบัติให้คนอื่นเห็น มากกว่าสอนด้วยคำพูด เราอยากให้คนอื่นเป็นแบบไหน เราต้องเป็นแบบนั้นก่อน ผมต้องเป็นผลิตผลของผลิตภัณฑ์ให้ได้ก่อน สุขภาพผมต้องดีก่อน และต้องมีรายได้เข้ามาให้เห็นจริง ๆ จึงจะไปบอกกับคนอื่นได้แบบเต็มปากเต็มคำ”

ด้านการทำงานในขณะนี้ อนุช จะเน้นทั้งในด้านออนไลน์และออฟไลน์ ไม่ว่าจะเป็นห้องประชุมออนไลน์ OPP หรือตามแต่ทีมงาน และลูกค้าสะดวก ซึ่งถ้าใครสะดวกแบบออฟไลน์อยากให้เขาไปหาเขาก็ไป รวมถึงการจัดส่งสินค้าด้วย เขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อทุกคน สำหรับการถ่ายทอด เขาเน้นการพัฒนาบุคลากรให้ได้ตามที่เห็นเหมาะสมในคนแต่ละคน ซึ่งใครถนัดด้านไหนก็จะสอนทางด้านนั้นให้ ทุกอย่างที่ทำเขาบอกกับเราว่า “เราจะต้องเป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับ” ซึ่งนั่นก็คือหัวใจของธุรกิจเครือข่ายนั่นเอง

“ไม่ว่าเราจะทำงานอะไรก็แล้วแต่ ต้องมีวิสัยทัศน์ ให้มองงานที่เราทำ มองภาพแห่งความสำเร็จว่า สิ่งที่กำลังทำ 5 หรือ 10 ปีผ่านไป จะเป็นแบบไหน อย่างเช่นกับ คิงส์เฮิร์บ ต้องมองว่า เราจะประสบความสำเร็จกับที่นี่ได้อย่างไร ซึ่งการทำธุรกิจเครือข่าย ต้องมีทัศนคติที่เป็นบวกให้มากพอ สิ่งที่ผมจะสอนทีมงานเป็นอย่างแรก คือ ต้องสร้างทัศนคติบวกให้ได้ก่อน ถึงจะเรียนรู้ในขั้นตอนถัดไป”

คิงส์เฮิร์บ ถูกก่อตั้งมาโดยที่ไม่ได้หวังจะเอากำไรอย่างเดียว และในเรื่องความมั่นคงที่นี่ก็ไม่เป็นรองใครเพราะอยู่มาถึง 18 ปี ท่านประธาน และรองประธานก็เป็นคนใจบุญ เน้นทำกิจกรรม CSR อยู่ตลอดเวลา เพราะพอเราได้แบ่งปันให้คนด้อยโอกาสด้วยจิตอันบริสุทธิ์ สิ่งที่เราแบ่งปันไปโดยไม่ได้คิดอยากจะได้อะไรกลับคืน แต่สิ่งเหล่านั้นจะย้อนกลับมาแบบไม่ต้องคาดหวังเป็นร้อยเป็นพันเท่า อย่างน้อยก็ความปีติในใจของเรานั่นเอง ที่นี่จึงอบอุ่นเป็นครอบครัวที่อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข

“ท่านประธาน และรองประธาน เป็นคนที่มีวิสัยทัศน์ มองโลกในอนาคตได้กว้างไกลมาก และไม่เคยหยุดที่จะพัฒนาบริษัท พัฒนาผลิตภัณฑ์ และพัฒนาผู้นำ ผมรับวิสัยทัศน์จากท่านมาแล้วนำมาประยุกต์ใช้กับทีมของผม เพื่อเดินสอดคล้องไปด้วยกัน ที่สำคัญเรื่องสุขภาพยังไงก็ติดเทรนด์เสมอ แต่สิ่งที่เราคิดคือจะทำให้เทรนด์นี้ที่หมายถึงผลิตภัณฑ์ของเราไปอยู่ในบ้านทุกหลังได้อย่างไร ซึ่งผมเชื่อว่าเราจะทำสิ่งนั้นให้เป็นไปได้ เพราะ คิงส์เฮิร์บ มีปฏิญญากับผู้นำว่า เราต้องแบ่งปันให้คนอื่นมีความสุขเหมือนกับเรา”

 

Loading