“Give More” Application ทางเลือกใหม่แห่งยุคดิจิทัล

โตแรง‼ แพลตฟอร์มสุดล้ำแห่งยุคดิจิทัล “Give More Application” รับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เปลี่ยนพฤติกรรมซื้อขายสินค้าและบริการผ่านออนไลน์มากขึ้น ผลตอบรับ 8 เดือน ยอดสมาชิกพุ่ง 3,000 รหัส มีผลิตภัณฑ์ในระบบแล้ว 400 รายการ พันธมิตรผู้ประกอบการมากกว่า 50 ราย ตั้งเป้ารุกขยายเครือข่ายไปทั่วโลก

การเปลี่ยนแปลงของโลกในยุคปัจจุบันที่ถูก Digital Disruption เพราะสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 กำลังส่งผลกระทบในวงกว้าง ผู้คนตกงานขาดแคลนรายได้ ผู้ประกอบการขาดทุน เศรษฐกิจทั่วโลกเข้าสู่ภาวะตกต่ำ ด้วยเหตุนี้ธุรกิจไหนที่ไม่ปรับตัวหรือเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจ ย่อมไม่สามารถเติบโตได้ ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จึงเห็นภาพหลายองค์กรเร่งทำ Digital Transformation โดยหนึ่งในนั้น คือ การพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานดิจิทัลที่ดีให้กับลูกค้า พร้อมนำเสนอสินค้าและบริการให้ตรงความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ชอบใช้บริการแอปพลิเคชันผ่านมือถือเพราะง่ายและสะดวกรวดเร็ว เช่นเดียวกับธุรกิจน้องใหม่จำนวนมากก็มีการเปิดตัวแอปพลิเคชันเพื่อใช้เป็นตัวกลางนำเสนอสินค้าและบริการให้เข้าถึงผู้บริโภคยุคใหม่ได้มากที่สุด ล่าสุด มีการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ของ แพลตฟอร์ม “Give More” แอปพลิเคชันที่มี Feature หลากหลายในแอปพลิเคชันเดียว สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนในยุคปัจจุบันได้ครบทุกมิติ ทั้งผู้ที่ต้องการหารายได้เพิ่มแต่ไม่ชอบพบปะผู้คน และผู้ที่ชื่นชอบการซื้อสินค้าหรือบริการผ่านช่องทางออนไลน์ โดยมีผู้บริหารทุนหนาชื่อดังที่คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงธุรกิจขายตรง ดร.ณัฐพัชร์ อำพันยุทธ์ ดำรงตำแหน่ง ประธานผู้ก่อตั้ง และ กัญญณัช รัศมีโชติ นักธุรกิจหญิงเก่งที่เชี่ยวชาญการทำการตลาดผ่านแอปพลิเคชัน ดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร “Give More Application”

ดร.ณัฐพัชร์ เปิดเผยว่า Give More เป็นแพลตฟอร์มธุรกิจแห่งโลกดิจิทัล ที่ดำเนินการภายใต้ปณิธานหลักคือ “เศรษฐกิจแบ่งปัน” โ ดยมีเป้าหมายที่จะช่วยให้เศรษฐกิจเกิดการหมุนเวียน ระหว่างผู้บริโภค ผู้ประกอบการ และผู้ที่สนใจในเน็ตเวิร์กมาร์เก็ตติ้ง ผ่านการใช้งานในรูปแบบแอปพลิเคชันที่ง่ายและทันยุคสมัย เพื่อให้เกิดการแบ่งปันรายได้ และความสำเร็จไปยังทุกคนบนโลกใบนี้ ด้วยการซื้อ-ขาย-ขยายเครือข่าย แบบครบวงจรแค่ปลายนิ้ว

จุดเด่นของแพลตฟอร์ม Give More ประกอบไปด้วย 6 ปัจจัย ดังต่อไปนี้ 1.มีระบบพัฒนาเพื่อรองรับผู้ประกอบการในอนาคตมากกว่า 10,000 รายการ 2.มีระบบ Drop Ship ไม่ต้องสต๊อก ไม่ต้องส่งสินค้าเอง เพราะบริษัทรับผิดชอบเรื่องระบบจัดส่งให้ 3.มีระบบเทคโนโลยีออนไลน์ สำหรับเชิญสมาชิกใหม่เข้ามาร่วมธุรกิจที่ง่ายและสะดวก 4.มีระบบร้านค้าออนไลน์ส่วนตัว เชื่อมต่อช่องทางการกระจายสินค้าผ่านช่องทางโซเชียล มีเดีย ของแต่ละคนได้ด้วยการแชร์ลิงก์ 5.มีระบบเรียนรู้การตลาดออนไลน์โดยผ่าน Give More Academy และ 6.มีระบบสนับสนุนผู้ประกอบการเจ้าของสินค้าเข้ามาสร้างธุรกิจแบบไม่ต้องลงทุนค่าการตลาด

ที่สำคัญทางบริษัทยังเปิดให้ผู้ประกอบการที่สนใจเข้ามาใช้บริการโดยไม่ต้องมีค่าบริการแรกเข้า ทั้งนี้ สินค้าบริการที่นำเข้ามาจำหน่ายผ่านช่องทาง Give More Application จะต้องเป็นสินค้าและบริการที่มีมาตรฐานได้รับการรับรองจากหน่วยงานของรัฐ ราคายุติธรรม ทีมบริหารเชื่อว่าเมื่อผนวกกับแผนการจ่ายผลตอบแทนเป็นลำดับชั้นแบบเน็ตเวิร์กมาร์เก็ตติ้ง จะทำให้เกิดระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนที่เข้มแข็งขึ้น สมาชิกที่อยู่ในระบบเน็ตเวิร์กมาร์เก็ตติ้ง ก็จะได้รับแต้มหรือ PV นำกลับไปซื้อสินค้าและบริการในแอปพลิเคชันได้ เป็นเหมือนวงล้อเศรษฐกิจต่อเนื่องหมุนเวียนไปอย่างไม่หยุดยั้ง

“แนวทางการทำธุรกิจปีแรก บริษัทฯ จะเน้นการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับ Give More Application ให้ได้มากที่สุด ขณะที่เป้าหมายระยะยาว 8-10 ปีต่อจากนี้ จะขยายแพลตฟอร์มไปทั่วเอเชียและทั่วโลก ไปยังประเทศที่สามารถขออนุญาตทำอีคอมเมิร์ซหรือออนไลน์ในลักษณะนี้ได้ โดยปัจจุบันสินค้าและบริการที่จำหน่ายในระบบมีประมาณ 400 รายการ มีพันธมิตรที่เป็นผู้ประกอบการมากกว่า 50 ราย โดยมีอัตราเพิ่มขึ้นเดือนละ 10-20 ราย ซึ่งสินค้าและบริการส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าบริโภค-อุปโภค ยาแผนโบราณ อาหารทะเลสด และทางด้านบริการ เช่น บริการสอนขับเครื่องบิน เป็นต้น โดยสินค้าที่มียอดขายสูงสุด คือ สินค้าสำหรับสุภาพสตรี หมวดเครื่องสำอาง สินค้าที่ตอบโจทย์ท่านชาย ด้านการดูแลองค์รวมของสุขภาพ และกลุ่มสินค้าในครัวเรือน”

กัญญณัช กล่าวเพิ่มเติมว่า “ตลอด 8 เดือนที่เปิดดำเนินการมาจนถึงปัจจุบันนี้ Give More ได้รับการตอบรับที่ดีมาก สร้างฐานสมาชิกได้มากกว่า 3,000 รหัส สร้างผู้นำระดับสูง ดำรงตำแหน่ง Manager 20 รหัส และดำรงตำแหน่งสูงสุด คือ Director 5 รหัส ส่วนกลยุทธ์ต่อจากนี้แพลตฟอร์ม Give More Application ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาทั้งด้านเทคโนโลยีของตัวแอปพลิเคชันและการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ ไปจนถึงการผลิตสื่อออนไลน์ที่หลากหลายอย่างต่อเนื่อง ให้สอดคล้องกับเป้าหมายระยะยาว ที่จะรุกขยายเครือข่าย ภายใต้คอนเซ็ปต์เศรษฐกิจแบ่งปันไปสู่ผู้คนทั่วโลกให้ได้”

อย่างไรก็ตาม แอปพลิเคชัน Give More ไม่ได้เน้นขายตรง 100% แต่เน้นการทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ที่ถือเป็นช่องทางการตลาดที่ใหญ่กว่าธุรกิจขายตรงรูปแบบเดิมและครอบคลุมผู้บริโภคมากกว่า ตอบสนองกับคนรุ่นใหม่ได้ในปัจจุบันและอนาคต เพราะนับจากนี้กิจกรรมการจัดประชุม การฝึกอบรม การซื้อสินค้าและบริการ จะมีการพบปะรวมตัวกัน น้อยลงเรื่อย ๆ ขณะที่วอลลุ่มในโลกออนไลน์จะเพิ่มมากขึ้น

“แอปพลิเคชันนี้เป็นเสมือนตลาดที่จะทำให้คุณได้ซื้อสินค้าและบริการหลากหลายในราคาที่การันตีว่า ถูก ดี เป็นธรรม และเชื่อมั่นในการจัดส่งได้ แถมยังได้ผลตอบแทนเป็นลำดับชั้นแบบขายตรง เพื่อตอบโจทย์ผู้คนที่ต้องการสร้างรายได้ ดังนั้น Give More จึงถือเป็นแอปพลิเคชันแห่งอนาคต ที่ครอบคลุมทุกความต้องการ สร้างเศรษฐกิจแบ่งปันสู่คนทุกกลุ่มได้อย่างแท้จริง” ดร.ณัฐพัชร์ กล่าวทิ้งท้าย

Loading