We Connect We Grow Together “พวกเราเลือกเกษียณกับ PR9”

“ผมชอบผลิตภัณฑ์แนวสุขภาพ สมุนไพร เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และมองว่าปัจจุบันคนเราเกิดโรคจากความเสื่อมมากขึ้น ซึ่งต้องรักษาโดยใช้การปฏิบัติตัวของผู้ป่วย และการรักษาแบบแพทย์ทางเลือก ซึ่งนอกจาก พีอาร์ไนน์ จะเป็นเจ้าของยาจีนที่เป็นสูตรประจำตระกูล ผลิตเอง และทำการตลาดแต่เพียงผู้เดียวแล้ว เรื่องแผนการตลาดของที่นี่ ก็เป็นแผนการตลาดที่ง่ายมาก ทุกคนมีโอกาสทำได้ และสามารถที่จะสำเร็จได้ในเวลาไม่นาน”

ตรีวิทย์ โพธิวงค์ Double Diamond Executive และ Millionaire Club 30 ล้าน และ พรหมภรณ์ โพธิวงค์ Emerald Executive ของ บริษัท พีอาร์ไนน์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (PR9) กับการยึดอาชีพธุรกิจเครือข่ายเป็นหลักในชีวิต เพราะต้องการเกษียณแบบ Passive Income และ พีอาร์ไนน์ เป็นบริษัทสุดท้ายที่ทั้งคู่เลือก ด้วยเหตุผลอย่างไรนั้น…? วันนี้ Hall of Fame ได้นำมาฝากกัน

มาทำความรู้จักกับทั้งคู่ ซึ่งคนแรกคือ ตรีวิทย์ นั้น เคยรับราชการอยู่ที่จังหวัดกาฬสินธุ์เป็นเวลา 13 ปี และลาออกจากราชการเพราะรู้สึกอิ่มตัวเพราะอิ่มตัวในการทำงาน ส่วน พรหมภรณ์ เคยทำงานประจำ และออกมาทำอาชีพค้าขาย ปัจจุบันเป็นนักธุรกิจตำแหน่ง Emerald Executive ของ บริษัท พีอาร์ไนน์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด

เริ่มต้นการทำธุรกิจเครือข่ายของทั้งคู่นั้น เกิดจาก ตรีวิทย์ อิ่มตัวในการทำงานเป็นข้าราชการประจำ ค่าตอบแทนไม่ตอบโจทย์ ไม่มีอิสรภาพ จึงออกมาทำกิจการส่วนตัวหลายอย่าง แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ จนมีคนรู้จักมาแนะนำธุรกิจ พีอาร์ไนน์ ซึ่งเขาบอกว่า เรื่องงานเครือข่ายเขาเคยสัมผัส และลองศึกษามาก่อนเลยเกิดความชอบ เพราะเป็นธุรกิจที่ให้ความเสมอภาค คนมีโอกาสเติบโต และประสบความสำเร็จได้ โดยไม่ได้แบ่งกั้นประสบการณ์ ความรู้ การศึกษา ทุกคนสามารถเข้ามาเรียนรู้ ที่สำคัญลงทุนน้อยแต่มีโอกาสรับรายได้หลักแสนหลักล้าน และสามารถทำเสริมกับงานประจำได้ ซึ่งเรียกว่ากระเป๋าเงินอีก 1 ใบนั่นเอง

“ตอนแรกผมยังไม่ได้มาทำแบบเต็มตัว เพียงทำเป็นอาชีพเสริมแต่มองเห็นการอยู่ได้ในระยะยาวของธุรกิจนี้ที่เรียกกันว่า Passive Income ตอนนั้นยังไม่ค่อยเข้าใจ เลยศึกษาในโครงข่ายแบบจริงจัง จึงรู้ว่าการร่วมธุรกิจ ก็เหมือนเราได้เป็นเจ้าของกิจการ เจ้าของแบรนด์ เจ้าของระบบ มีโอกาสเติบโตได้แบบไร้ความเสี่ยง และประสบความสำเร็จได้จริง”

เบื้องต้นเขาไม่ได้มีความคิดว่าการทำธุรกิจกับที่นี่จะสามารถเติบโตได้เหมือนในขณะนี้ เพราะธุรกิจเครือข่ายมีเปิดอยู่มากมาย ซึ่งเขาคิดว่าคนจะเติบโตในธุรกิจนี้ได้ต้องมีองค์ประกอบหลายอย่าง แต่ พีอาร์ไนน์ ก็สามารถทำให้เขาประสบความสำเร็จ ด้วยองค์ประกอบที่ครบในแบบที่เขาต้องการ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทที่เจ้าของมีความตั้งใจจริงในการประกอบการมีเจตนาทำธุรกิจให้เติบโตในระยะยาว ตัวสินค้าหลักที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน ซึ่ง พีอาร์ไนน์ เป็นเจ้าของยาจีนที่เป็นสูตรประจำตระกูล ผลิตเอง และทำการตลาดแต่เพียงผู้เดียว

“ผมชอบผลิตภัณฑ์แนวสุขภาพ สมุนไพร เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และมองว่าปัจจุบันคนเราเกิดโรคจากความเสื่อมมากขึ้น ซึ่งต้องรักษาโดยใช้การปฏิบัติตัวของผู้ป่วย และการรักษาแบบแพทย์ทางเลือก ซึ่งนอกจาก พีอาร์ไนน์ จะเป็นเจ้าของยาจีนที่เป็นสูตรประจำตระกูล ผลิตเอง และทำการตลาดแต่เพียงผู้เดียวแล้ว เรื่องเเผนการตลาดของที่นี่ ก็เป็นเเผนการตลาดที่ง่ายมาก ทุกคนมีโอกาสทำได้ และสามารถที่จะสำเร็จได้ในเวลาไม่นาน”

สำหรับการทำทีมของ ตรีวิทย์ เน้นทำงานพื้นฐานอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการวางผังงาน วางทีม ที่มีคอนเซปต์ว่าต้องโตทั้งทีม ไม่ใช่มีเพียงตนเองที่โต และการที่เข้ามาร่วมธุรกิจกับ พีอาร์ไนน์ นั้น เขาบอกว่า เป็นการวางแผนระยะยาว เพราะจะทำที่นี่เป็นที่สุดท้าย โดยทีมงานจะต้องโตตามกันไป เพราะถ้าทีมงานไม่โตก็จะเหนื่อยอยู่คนเดียว เขาจึงทำทุกอย่างเพื่อดึงศักยภาพทีมงานขึ้นมา ในการทำให้ทุกคนมีทีม มีองค์กร มีตำแหน่ง และรายได้ ซึ่งการวางผังทีมมีความสำคัญกับเขามาก เพราะเขาวางผังเพื่อโต โตได้ โตเร็ว และต้องโตแบบยั่งยืนอีกด้วย เพื่อที่จะได้เกษียณในแบบ Passive Income

“ผมว่าเราต้องมองถึงการเกษียณ หรือ Passive Income ด้วย เพราะคนเราไม่ได้เกิดมาเพื่อหาเงินอย่างเดียว แต่ต้องใช้ชีวิต ธุรกิจเครือข่ายถ้าคุณทำดี ๆ รายได้เป็นแสนเป็นล้านแน่นอน ซึ่งการเป็น Network Marketing นั้นเกษียณได้แบบไร้ความเสี่ยงที่สุด เพราะไม่ต้องลงทุนเยอะ เพียงใช้ศักยภาพและความสามารถที่มี ผมชอบงานตรงนี้ เพราะท้าทาย ทำได้แบบเต็มที่ และ
มีผลสะท้อนกลับมาแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย”

การก้าวขึ้นมาใน ตำแหน่ง Double Diamond Executive และ Millionaire Club 30 ล้าน นั้น ตรีวิทย์ บอกว่า เป็นเพียงการเริ่มต้น เพราะตอนนี้เหลืออีกไม่กี่ล้านเขาก็จะก้าวขึ้นเป็น Millionaire Club 40 ล้านแล้ว ซึ่ง 3 ปีที่ผ่านมา แม้เขาจะพบปัญหาในเรื่องของโควิด แต่ข้อดีคือองค์กรที่สร้างไว้ บวกกับผลิตภัณฑ์ของ พีอาร์ไนน์ ที่มีการซื้อซ้ำสม่ำเสมอ พร้อมทั้งในเรื่องแผนการตลาดที่ พีอาร์ไนน์ ได้นำในเรื่องของออนไลน์มาเชื่อมต่อ ทำให้ตรงประเด็น และช่วยได้ในวิกฤติโรคระบาดที่ผ่านมา ซึ่งบอกกับเราว่า ในสถานการณ์ตอนนี้ เขาและทีมงานตั้งหลักได้แล้ว และมีความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ ที่จะทำเป้าหมายตามที่คิดว่าจะทำได้ดีกว่านี้อย่างแน่นอน

Loading