พวกเราภูมิใจที่ได้ร่วมธุรกิจ กับ “พีอาร์ไนน์”

“PR9 ก้าวเข้าสู่ปีที่ 10 จุดแข็งของที่นี่คือบริษัทน้ำดีสีขาว ผู้นำเดินเข้ามาและทำตามระบบ ด้วยการสร้างองค์กรของตัวเอง ซึ่งเป็นผู้นำที่มีคุณภาพจริง ๆ และในเรื่องของวิสัยทัศน์ผู้บริหารก็มีความรู้ความสามารถ เก่งในระดับนานาชาติ วางแผนในเรื่องของการทำการตลาดในรูปแบบออนไลน์ และพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง รวมถึงพัฒนาในเรื่องของหลักสูตรต่าง ๆ เพื่อรองรับการเติบโตให้แก่ทีมงาน”

ศุภมน ทันใจ Double Diamond Executive Millionaire Club 10 ล้าน และ ศุภฤกษ์ เจนตระกูล Diamond Executive Millionaire Club 10 ล้าน ของ บริษัท พีอาร์ไนน์ คอปอร์เรชั่น จำกัด กับความภาคภูมิใจในบริษัท ที่สามารถทำให้พวกเขาได้ประสบความสำเร็จในธุรกิจเครือข่ายอย่างแท้จริง ซึ่งไม่มีที่ไหนทำให้พวกเขาได้แบบนี้มาก่อน อย่างไรนั้น Hall of Fame ได้นำบทสัมภาษณ์มาให้ทุกคนได้เรียนรู้ไปด้วยกัน

เริ่มต้นจาก ศุภมน ที่บอกกับเราว่า เธอเป็นเด็กกำพร้า เพราะมารดาเสียมาตั้งแต่เด็ก มีคุณยายเลี้ยงมาจนจบชั้น ปวช. จากนั้นได้ทำงานประจำกับบริษัทขายตรงแห่งหนึ่ง ที่ทำให้รู้เธอรู้ว่ามีอาชีพที่ไม่ต้องเรียนจบสูง แต่สามารถทำให้มีรายได้เดือนละเป็นแสนเป็นล้านได้ จึงรู้สึกดีกับอาชีพเครือข่าย เลยเอาเวลาหลังเลิกงานไปทำอยู่ประมาณ 4 ปี แต่เมื่อได้มาพบกับสามี คือ ศุภฤกษ์ ที่ได้เปิดร้านอุปกรณ์การเกษตรให้ที่จังหวัดมุกดาหาร เธอจึงเลิกทำเครือข่ายไปจนได้มาพบกับ พีอาร์ไนน์

ส่วนทางด้านสามี คือ ศุภฤกษ์ จบวิศวกร ทำงานประจำมากว่า 10 ปี แต่ด้วยความอยากมีรายได้มากขึ้น จึงออกมาทำอาชีพส่วนตัว ตั้งแต่เปิดบริษัทรับเหมา ร้านอาหาร ปั๊มน้ำมัน แต่เป็นเพราะสายป่านไม่ยาว และด้วยประสบการณ์น้อย เมื่อเจอวิกฤติเศรษฐกิจจึงถึงกับล้มละลาย และนั่นคือจุดที่เขาหันมาสนใจในธุรกิจเครือข่าย ที่จากเดิม “ไม่เชื่อ ไม่ใช่ ไม่ชอบ” เพราะมีความรู้สึกว่าเป็นธุรกิจของคนไม่มีทางไป เป็นอาชีพขายฝัน หลอกลวง แต่ในเมื่อไม่มีต้นทุน จึงเข้าไปเรียนรู้กับธุรกิจนี้จนรู้ว่า เครือข่าย คือ อาชีพที่ลงทุนน้อย แต่สามารถสร้างรายได้แบบไร้ขีดจำกัด ที่สำคัญไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ถ้ามุ่งมั่นและตั้งใจก็จะสามารถประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้ได้ทุกคน

ศุภฤกษ์ เล่าให้ฟังว่า เขาเคยทำธุรกิจเครือข่ายมากับบริษัทแห่งหนึ่งจนประสบความสำเร็จ แต่พอทำได้ระยะหนึ่ง ทางบริษัทได้ปรับเปลี่ยนแผนงาน ทำให้เขาไปต่อไม่ได้ จึงไปเปิดร้านขายอุปกรณ์การเกษตรกับภรรยา คือ ศุภมน โดยทิ้งวงการเครือข่ายไป  ได้มาพบกับ พีอาร์ไนน์ ก็เพราะ ศุภมน ใช้ผลิตภัณฑ์ของที่นี่ แล้วดูดีขึ้นจนมีคนทัก เธอจึงนำมาวางขาย ซึ่งตอนแรกเขาก็ไม่ได้สนใจ แต่เมื่อได้อ่านคู่มือการทำงานของ พีอาร์ไนน์ ก็ทำให้เขาเปลี่ยนใจกลับมาทำเครือข่ายอีกครั้ง และครั้งนี้ก็ทำให้ทั้งคู่ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง

“ผมชวน คุณศุภมน มาทำกับ พีอาร์ไนน์ โดยให้คำมั่นว่าจะทำให้ผู้บริหารที่นี่รู้จักกับพวกเราให้ได้ภายใน 4 เดือน ที่มาทำเพราะศึกษาจนเห็นความมุ่งมั่นตั้งใจของบริษัท ความมั่นคง น่าเชื่อถือ และวิสัยทัศน์ของทีมบริหาร คือ จุดหลักที่พร้อมให้เราลุย ส่วนเรื่องผลิตภัณฑ์ของที่นี่ก็มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แผนการตลาดตอบโจทย์ ที่ใครก็สามารถทำได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแผนหน้า แผนกลาง และแผนหลัง ที่เกลี่ยได้อย่างสมดุล และยุติธรรม มีระบบซัพพอร์ตในเรื่องของการทำงาน ตั้งแต่คนที่ไม่เป็นจนสำเร็จได้ องค์ประกอบครบแบบนี้ ทำให้เพียง 4 เดือน ยอดผมโตเร็ว และขึ้นตำแหน่งได้เร็วมาก ทำไปเดือนเดียวเราสามารถ
ติดทริปเวียดนามได้โดยไม่รู้ตัว”

ทางด้าน ศุภมน บอกว่าการได้ก้าวขึ้นมาใน ตำแหน่ง Diamond Executive Millionaire Club 10 ล้าน ทำให้เธอรู้สึกภาคภูมิใจมาก เพราะจากเด็กที่ไม่มีโอกาส และต้นทุนเหมือนคนอื่น เมื่อมีวันนี้ทำให้บิดา และคุณยาย ยิ้มอย่างมีความสุข คุณภาพชีวิตดีขึ้นในทุก ๆ ด้าน เพียงปีแรกก็ได้รถยนต์ป้ายแดงมาไว้ในครอบครอง ปีที่ 2 มีเงินซื้อบ้าน รวมถึงได้ไปท่องเที่ยวต่างประเทศกว่า 10 ประเทศ พร้อมทั้งในประเทศอย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญการชอบทำบุญของเธอ เมื่อมีรายได้เข้ามาแบบไร้ขีดจำกัด เธอยิ่งทำบุญด้วยความสบายใจ

ทั้งคู่ใช้เวลาเพียง 8 เดือน ก็สามารถทำให้บริษัทอนุมัติสร้างสาขาที่มุกดาหารด้วยเงินลงทุนถึงกว่า 30 ล้านบาท ดังนั้นจึงสร้างทีมชุดที่ 2 ขึ้นมาในแบบที่สามารถทำงานพื้นฐานแทนได้ และ ศุภฤกษ์ ก็ได้พาตัวเองขึ้นสู่ภาคเหนือ ซึ่งก็สามารถใช้เวลาเพียง 8 เดือน สร้างสาขาที่อุตรดิตถ์ขึ้นมาได้เช่นเดียวกัน จึงเรียกได้ว่าทีมของทั้งคู่นั้นเติบโตมากที่สุดใน บริษัท พีอาร์ไนน์ คอร์ปอเรชั่น แห่งนี้ ที่ ศุภฤกษ์ ได้ฝากเอาไว้ว่า “การตัดสินใจลงมือทำอะไรก็แล้วแต่ ให้ทำแบบมืออาชีพจริง ๆ สิ่งนั้นก็จะสามารถทำให้เราเลือกธุรกิจที่เราต้องการให้กลายมาเป็นอาชีพที่มั่นคงได้เลย”

สำหรับการบริหารทีมของ ศุภมน และ ศุภฤกษ์ ใช้หลักยึดเดียวกัน คือ ซื่อสัตย์ จริงใจ เป็นผู้ให้ พร้อมทั้งเป็นแบบอย่าง
ในการมีสัจจะ พูดคำไหนคำนั้น โดยบอกว่า “ถ้าใครอยากทำเครือข่ายให้สำเร็จขอให้แสดงตัวออกมา และมาร่วมทีมกัน พวกเราไม่เคยทิ้งใคร ถ้าคุณยืนหยัด พวกเราก็จะยืนหยัดร่วมแก้ปัญหา ทำให้คุณสำเร็จได้เหมือนกับพวกเรา”

พีอาร์ไนน์ ก้าวเข้าสู่ปีที่สิบ จุดแข็งของที่นี่คือบริษัทน้ำดีสีขาว ผู้นำเดินเข้ามาและทำตามระบบ ด้วยการสร้างองค์กรของตัวเอง ซึ่งเป็นผู้นำที่มีคุณภาพจริง ๆ และในเรื่องของวิสัยทัศน์ผู้บริหารก็มีความรู้ ความสามารถ เก่งในระดับนานาชาติ วางแผนในเรื่องของการทำการตลาดในรูปแบบออนไลน์ และพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง รวมถึงพัฒนาในเรื่องของหลักสูตรต่าง ๆ เพื่อรองรับการเติบโตให้แก่ทีมงาน กำไรทุกบาททุกสตางค์ในการทำธุรกิจ ท่านประธาน ดร.เสกข์สรร ธีระวาณิชย์ ห้ามเอาออกจากบริษัท ท่านจะไม่เอาไปเป็นกำไรของท่าน แต่จะนำกำไรส่วนนี้ มาพัฒนาบริษัทนี้ให้เติบโต ทำให้ผู้นำมีชีวิตที่ดีขึ้น และพัฒนาไปสู่สากล โดยจะทำให้กระจายไปสู่นานาชาติ พวกเรารู้สึกภูมิใจมากที่จะเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทเมืองไทยที่จะเติบโตยังนานาชาติต่อไป”

 

Loading