“ซัคเซสมอร์” เล่นใหญ่ฉลอง 10 ปี ! คว้า “มาริโอ้” นั่งแท่นพรีเซ็นเตอร์

“ซัคเซสมอร์” 9 เดือน ยอดพุ่ง 877 ล้านบาท ! รุกหนักฉลองครบรอบ 10 ปี คว้าพระเอกซุป’ตาร์ “มาริโอ้ เมาเร่อ” นั่งแท่นพรีเซ็นเตอร์ “S.O.D MORE” ชูคอนเซ็ปต์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารพรีเมียมของคนรุ่นใหม่ที่รักสุขภาพ เตรียมอัดงบสื่อสารการตลาด 50 ล้านบาท สร้างแบรนด์สู่ผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ จ่อปิดดีลเพิ่มพันธมิตรธุรกิจสินเชื่อ ปักหมุดหมายปี 2566 มุ่งสู่การเป็นหุ้น High Growth

นพ.สิทธวีร์ เกียรติชวนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) ธุรกิจเครือข่ายแบรนด์แรกของไทยที่เข้าสู่ตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เปิดเผยว่า ขณะนี้เข้าสู่ช่วงสุดท้ายของปี 2565 ด้วยการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามแผนงานที่ตั้งเป้าหมายไว้ และกลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัทมีกำลังซื้อเพิ่มเข้ามาตามการฟื้นตัวของโมเมนตัมที่ดีอย่างต่อเนื่อง

โดยผลิตภัณฑ์ตัวเอกในปีนี้ คือ ผลิตภัณฑ์กลุ่มการเกษตร Growing More ที่มี High Margin สูงมากมียอดขายในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 เติบโตกว่า 60% เมื่อเทียบกับยอดขายในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2564 ขณะที่ผลิตภัณฑ์กลุ่ม Skin Care เติบโต 18% และกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันเติบโต 3% ขณะที่ธุรกิจลิสซิ่งภายใต้ชื่อ “บริษัท จัดให้ ลิสซิ่ง จำกัด” ที่เปิดดำเนินการในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งให้บริการสินเชื่อประเภทเช่าซื้อ จํานําทะเบียนรถ จํานองที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เพื่อต่อยอดจากการมีฐาน กลุ่มสมาชิกนักธุรกิจเครือข่ายของซัคเซสมอร์ในประเทศไทยที่มีอยู่ประมาณ 136,000 ราย ขณะนี้ได้เริ่มปล่อยสินเชื่อในระยะแรกในกลุ่มลูกค้าเป้าหมายคือสมาชิก โดยใช้พื้นที่สาขาของบริษัทก่อนที่ระยะต่อไปจะขยายไปสู่บุคคลทั่วไป ทำให้คาดว่าภายในสิ้นปี 2565 จะมีพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ประมาณ 50 ล้านบาท นอกจากนี้ในไตรมาส 4/2565 บริษัทคาดว่าจะสรุปดีลการเพิ่มพันธมิตรในธุรกิจสินเชื่อได้เพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มทางเลือกการให้บริการสินเชื่อกับลูกค้าให้ครอบคลุมมากขึ้น

นพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2565 บริษัทมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการ 278.3 ล้านบาท รายได้อื่น ๆ 13.7 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 43.6 ล้านบาท ส่วนผลการดำเนินงานตลอด 9 เดือนแรกของปี 2565 อยู่ที่ 877 ล้านบาท โดยบริษัทสามารถทำรายได้รวมจากการขายสินค้าและบริการที่ 835.2 ล้านบาท รายได้อื่น ๆ 42.2 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 136.4 ล้านบาท กลยุทธ์ต่อจากนี้ บริษัทพร้อมเดินหน้าขยายฐานสมาชิกเพิ่ม รวมทั้งวางเป้าการแอคทีฟของฐานสมาชิกด้วยการสร้างแบรนด์ให้ขยายวงกว้าง รุกทำการตลาดทั้งออฟไลน์และออนไลน์ และการจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย

โดยความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญของซัคเซสมอร์ นับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่ในโอกาสครบรอบ 10 ปี คือ การเปิดตัว “มาริโอ้ เมาเร่อ” ซูเปอร์สตาร์ระดับท็อปของประเทศไทย เป็นพรีเซ็นเตอร์คนแรกของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เอส.โอ.ดี มอร์ (S.O.D MORE) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต้านอนุมูลอิสระ จากสารสกัด SOD Enzyme ที่ช่วยในการต้านอนุมูลอิสระเชิงรุกได้ลึกถึงระดับ DNA โดยสาเหตุที่บริษัทเลือกมาริโอ้ เพราะเป็นพระเอกหนุ่มที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศและต่างประเทศ สามารถชูจุดขายของแบรนด์ได้ดี อีกทั้งบุคลิกของมาริโอ้ มีความเป็นฮีโร่ มีสปิริต มีการดูแลสุขภาพของตัวเอง ดังนั้น จะสามารถนำเสนอจุดเด่นและเอกลักษณ์ของความเป็นคนดูแลสุขภาพออกมาได้อย่างชัดเจน สามารถสะท้อนตัวตนและผ่านการรับรู้ของแบรนด์ตามกลุ่มเป้าหมายของซัคเซสมอร์ได้

“พระเอกหนุ่มสุขภาพดี คือ ตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่จะปลุกกระแสการดูแลสุขภาพเพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์และสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ เข้าถึงลูกค้าได้ง่ายและเร็วขึ้นเพื่อการขยายฐานลูกค้า ยกระดับความพรีเมียมของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เอส.โอ.ดี มอร์ พร้อมแผนงานสร้างซัคเซสมอร์ให้เป็นแบรนด์ที่น่าเข้าร่วมทำธุรกิจและมีสินค้าที่หลากหลายและคุณภาพดี เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า รวมถึงแผนงานขยายตลาดไปในต่างประเทศเพิ่มเติม”

พร้อมกันนี้ซัคเซสมอร์เตรียมงบประมาณกว่า 50 ล้านบาท เพื่อสร้างสรรค์กิจกรรมสื่อสารการตลาดสู่ผู้บริโภคอย่างครบวงจร โดยเน้นสร้างการรับรู้ของแบรนด์ในวงกว้างและการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภค เช่น ปลุกกระแสการดูแลสุขภาพ ร่วมกับกลุ่ม KOL และศิลปินนักแสดงที่มีไลฟ์สไตล์ใส่ใจในสุขภาพ แจกผลิตภัณฑ์ตัวอย่างมากกว่าแสนขวด มีการใช้สื่อออนไลน์ สื่อ Out of Home สื่อ ณ จุดขาย และในสาขากว่า 22 สาขา ในหลากหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทย ภาพรวมทั้งหมดจะดำเนินการภายใต้กลยุทธ์หลักประกอบด้วย

1.ขยายเพิ่มฐานสมาชิก ในรูปแบบของสมการ XYZ  X คือ การเพิ่มฐาน Member ให้มีปริมาณที่เพิ่มขึ้น Y คือ คุณภาพของสมาชิกต้อง Active มากขึ้นต่อเดือน ส่วน Z คือ ยอด Order Side ที่สมาชิกแต่ละคนซื้อต้องมียอดเพิ่มขึ้น ซึ่งจะมุ่งเน้นเจาะตลาดพื้นที่ ที่มีกำลังซื้ออย่างภาคอีสานและภาคกลาง

2. เจาะขยายตลาดเกษตรกรและตลาด Silver Age ปัจจุบันอยู่ระหว่างพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจำนวน 1 รายการ คือ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อการนอนหลับ และมีผลิตภัณฑ์อีกจำนวน 2 รายการ ที่ออกไปแล้วใน 9 เดือนแรกของปี คือ ผลิตภัณฑ์ Benfite’ (เบนฟิเต้) ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก ทั้งน้ำยาบ้วนปาก ยาสีฟัน และเม้าท์สเปรย์ ที่มีส่วนผสมของกระชายขาวและฟ้าทะลายโจร และผลิตภัณฑ์แบรนด์ S Mone’ ครีมบำรุงผิวหน้า BRIGHTENING CREAM รวมถึงอยู่ในช่วงพัฒนาและคิดค้นปุ๋ยน้ำ NPK เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเกษตรมากขึ้น ควบคู่ไปกับการจัดงานออฟไลน์อย่างต่อเนื่อง

3. ขยายดีลเลอร์ต่างประเทศ ปัจจุบันที่มีตัวแทนจำหน่ายแล้วใน 6 ประเทศ ได้แก่ เมียนมา, สปป.ลาว, กัมพูชา, เวียดนาม, มาเลเซีย และสิงคโปร์ นอกจากนี้ยังอยู่ในระหว่างดำเนินการจัดตั้งสำนักงานในประเทศฟิลิปปินส์ รวมถึงกำลังศึกษาแนวทางขยายตลาดไปยังประเทศใกล้เคียง เช่น ประเทศอินโดนีเซีย และการหาตัวแทนฯ นำผลิตภัณฑ์ไปจำหน่ายยังประเทศที่บริษัทไม่มีสำนักงานตั้งอยู่ อาทิ กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง โดยทั้งหมดนี้อยู่ในแผนการพัฒนาในปี 2566

4. พัฒนายกระดับความแข็งแกร่งของทีมขยายเครือข่าย เร่งพัฒนาทีมประจำภูมิภาคให้ได้ 10-15 ทีม เพื่อการสร้างการรับรู้แบรนด์และคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ไปยังผู้บริโภคให้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของซัคเซสมอร์ในปีนี้ ถือว่าสามารถรักษาอัตราการทำกำไรสุทธิอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน และเดินหน้าบริหารจัดการ ควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยบริษัทมุ่งพัฒนาให้ผลิตภัณฑ์ของซัคเซสมอร์เป็น Brand Lover ผ่านการเข้าถึงลูกค้า ตอบโจทย์และสร้าง Community Marketing ควบคู่กันไป โดย ณ เดือนกันยายน 2565 บริษัทมีจำนวนสมาชิกรวม 187,000 คน แบ่งเป็นสมาชิกในประเทศไทย 136,000 คน และสมาชิกในต่างประเทศ 51,000 คน คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมียอดสมาชิกอยู่ที่ 200,000 ราย สำหรับเป้าหมายการเติบโตในปี 2566 คือ การขยายตลาดต่างประเทศที่มีศักยภาพอย่างประเทศอินโดนีเซีย และได้ชื่อว่าเป็นหุ้น High Growth ที่มีความสม่ำเสมอ เป็นองค์กรที่ทุกคนทราบว่าสามารถบริหารจัดการการเงินได้อย่างลงตัว อีกจุดเด่นที่ทำให้หุ้นของ SCM มีเสน่ห์ มีความเฉพาะตัวที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนได้ในอนาคต

Loading