‘TDIA’ จัดบิ๊กอีเว้นต์รับศักราชใหม่ เชิดชูเกียรติบุคลากรในอุตสาหกรรมขายตรง

สมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทย (TDIA) จับมือ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เดินหน้าจัดงานใหญ่รับต้นปี! TDIA AWARD 2023 เชิดชูเกียรติยศนักธุรกิจขายตรงและผู้ประกอบการคุณภาพมากความสามารถ พร้อมเดินหน้าร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ เข็นองค์ความรู้การทำธุรกิจขายตรงให้ถูกต้องถูกกฎหมายสู่ประชาชน หวังสร้างอิมแพคการรับรู้ที่ดียกระดับธุรกิจขายตรงในไทย ส่วนภาพรวมคาดปีนี้ เป็นอีกหนึ่งปีทองทุกอุตสาหกรรมธุรกิจฟื้นตัวและเติบโตสะพัด!

 เดินหน้ายกระดับแบรนด์ TDIA

พงษ์กฤตย์ องค์ศิริวัฒนา นายกสมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทย (TDIA) เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 21 ปีที่ผ่านมา สมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทย (TDIA) ก่อตั้งมา บริษัทสมาชิกต่าง ๆ จับมือกันกับภาครัฐร่วมสร้างกิจกรรมดี ๆ เพื่อนักธุรกิจขายตรงและสังคมไทย ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง และเพื่อให้ภาพลักษณ์สมาคมฯ เข้ากับยุคสมัยและนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่เข้ามาในอุตสาหกรรมขายตรงไทยเพิ่มมากขึ้น ในปีที่ผ่านมา จึงมีการประกาศ Rebrand เพื่อปรับภาพลักษณ์ให้ทันสมัยและน่าเชื่อถือ สร้างความมั่นใจให้กับสังคมและสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้น

“การ Rebrand ที่ผ่านมาของสมาคมฯ ทำให้ทุกคนตื่นเต้น มีความแอคทีฟมากขึ้น และมีความพร้อมความรับผิดชอบร่วมกัน เป็นทีมเวิร์กที่ดี ทุกคนอยากเห็นสิ่งใหม่ ๆ เกิดขึ้นในสมาคมฯ อยากเติบโตไปพร้อมกันอย่างมั่นคง เพราะทุกคนมีความสำคัญเท่ากันหมด ต้องส่งเสริมสนับสนุนกัน เพราะสมาคมเป็นเสมือนบ้านหลังใหญ่ของพวกเรา”

โดยสมาคมยังคงเดินหน้าทำภารกิจต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง บน Core Values” หรือ “ค่านิยมหลัก” ของสมาคมฯ ที่ได้ประกาศออกไป ได้แก่

1. TEAM WORK ความสามัคคีของการทำงานเป็นทีมบนพื้นฐานความอบอุ่นเหมือนคนในครอบครัว

2. DEVELOPMENT การพัฒนาความรู้และเทคโนโลยีใหม่ในสมาคมฯ และสมาชิกสมาคมฯ
เช่น ล่าสุดได้มีการพัฒนาโปรแกรมต่าง ๆ แบ่งปัน Mindset ที่มีการพัฒนาอยู่เสมอ เป็นต้น

3. INTEGRATION เป็นศูนย์กลางในการบูรณาการความรู้ร่วมกันของภาครัฐ สมาชิกสมาคมฯ นักธุรกิจและผู้บริโภค อาทิ สคบ., อย., นักธุรกิจอิสระ และกลุ่มผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากแชร์ลูกโซ่ และการสูญเสียจากการระดมทุน TDIA จะเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อประสานงานกับภาครัฐ เพื่อประโยชน์ของประชาชนในประเทศไทย

4. ACCOUNTANT ดำเนินธุรกิจบนความรับผิดชอบและการช่วยเหลือสังคม เช่น การทำ CSR ต่าง ๆ และออกไปทำกิจกรรมให้ความรู้ เพื่อสร้างความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้สำหรับภารกิจเพื่อสังคม สมาคมฯ ยังเคยร่วมกับมูลนิธิไทยพีดีเอส บริจาคอาหารแห้งถุงยังชีพผู้ประสบภัยน้ำท่วม และการร่วมมือกับ กอรมน. ในการจัดทำโครงการบรรเทาทุกข์ประชาชนในพื้นที่ยากไร้

นอกจากนี้ สมาคมฯ ยังมุ่งทำตามแผนดำเนินงานพันธกิจ 3S คือ

1. SUSTAINABLE ตอกย้ำการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนของสมาคมฯ โดยล่าสุดมีการอัพเดตความรู้ผ่านเว็บไซต์, เฟซบุ๊ก และยูทูบ เป็นอีกกลยุทธ์ในการสร้างภาพลักษณ์ให้กับสมาชิกที่เข้ามาในสมาคมฯ ได้เชื่อมั่นมากขึ้น

2. SHARING การแบ่งปันข้อมูล เพราะการดำเนินธุรกิจนั้น หากทำคนเดียวอาจจะหลงทาง การได้เข้าร่วมสมาคมทำให้ทุกคนได้แบ่งปันปัญหาและวิธีแก้ไข เช่น ในช่วงเวลาที่ตนได้ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งนายกสมาคมฯ ในปี 2021 ซึ่งเป็นช่วงโควิด-19 การพบปะขับเคลื่อนสมาคมฯ จึงมีการแบ่งปันในเรื่องของการรับมือกันอย่างไร ออนไลน์กันแบบไหน เน้นโปรโมชั่นแบบไหน และยังคงทำต่อเนื่องในทุกเดือนจนถึงตอนนี้

3. SERVICE เป็นศูนย์กลางความช่วยเหลือและประสานงานให้กับทุกฝ่าย ทั้งสมาชิกสมาคมฯ ภาครัฐ และประชาชนทั่วไป ล่าสุด สมาคมฯ ได้มีการเซ็นต์ MOU กับทาง สคบ. เพื่อเป็นศูนย์กลางในการนำข้อมูลข่าวสารจากภาครัฐส่งต่อไปยังผู้บริโภคเพื่อเป็นประโยชน์ในการสร้างการรับรู้ และป้องกันภัย Money Game โดยงานใหญ่แรกจะเกิดขึ้นในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566 คือ งาน TDIA AWARD 2023

นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในการให้องค์ความรู้เกี่ยวกับการโฆษณาที่ถูกต้อง การเช็กเลขทะเบียน อย. การเช็กผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้อง และการพูดถึงประโยชน์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมีกฎข้อบังคับอย่างไร เป็นต้น

ปัจจุบัน สมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทย (TDIA) มีสมาชิกประมาณ 20 บริษัท ซึ่งคนที่จะเข้ามาเป็นสมาชิกนั้น ต้องจดทะเบียน สคบ. อย่างถูกต้อง มีการตรวจสอบการทำออนไลน์ สินค้า เจตนารมณ์ในการทำธุรกิจ ในอนาคตทุกบริษัทที่เข้าร่วมกับทางสมาคมฯ จะได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ จากสมาคมฯ อาทิ การใช้ชื่อ และโลโก้สมาคมฯ บนสื่อต่าง ๆ ของบริษัท และสินค้าได้ เป็นต้น

จับมือ “สคบ.” จัดงานใหญ่เชิดชูเกียรติบุคลากรขายตรง

นายกสมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทย (TDIA) กล่าวต่อว่า กิจกรรมสำคัญต้นปีนี้ คือ การจัดงาน TDIA AWARD 2023 ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566 ณ หอประชุมใหญ่ TOT ถนนแจ้งวัฒนะ อาคาร 9 ชั้น 2 เริ่มลงทะเบียนเวลา 12.00 น. เริ่มงาน 13.00 น. เป็นต้นไป ถือว่าเป็นการจัดงานใหญ่ ครั้งแรกของปีนี้หลังเซ็น MOU ร่วมกันกับ สคบ. ภายในงานจะมีการมอบรางวัลและเชิดชูเกียรตินักธุรกิจขายตรง และผู้ประกอบการต่าง ๆ ที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมขายตรงไทย และเศรษฐกิจของประเทศ

“ภายในงานจะมีการให้ข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ โดยมี ท่านธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) มาปาฐกถาให้ความรู้ในเรื่องภัยจากแชร์ลูกโซ่รวมถึงแนวทางการทำงาน สคบ. ปี 2023 และทีมงานมาร่วมบรรยายให้องค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ ในหัวข้อ สคบ. กับนโยบายส่งเสริมสนับสนุนอุตสาหกรรมขายตรง และกลยุทธ์ป้องกันประชาชนจากภัยมันนี่เกมส์ พร้อมมอบรางวัลให้กับนักขายตรงดีเด่น และรางวัลองค์กรที่มีคุณภาพ เพื่อมอบรางวัลให้กับนักขายของบริษัทในสมาคมฯ และพันธมิตรองค์กรต่าง ๆ ที่มีส่วนช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมนี้ เช่น โรงงานผู้ผลิต  โลจิสติกส์ที่มีความสัมพันธ์กับอุตสาหกรรมขายตรงไทย โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 400 คน”

โดยรางวัลแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ประมาณ 40 รางวัล ได้แก่ 1.รางวัลนักขายตรงดีเด่น หรือ TDIA Smart Leadership Award 2. รางวัลผู้นำดาวรุ่งแห่งปี TDIA Rising Star Award 3. องค์กรที่มีผลงานและมีประสิทธิภาพยอดเยี่ยม Smart Performance Company Award

“สมาคมฯ ต้องการส่งเสริมและปลูกฝังจิตวิญญาณของผู้ประกอบการและนักธุรกิจขายตรงไทย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค เพื่อเป็นการยืนยันได้ว่าผู้บริโภคหรือนักธุรกิจที่อยู่ในเครือข่ายขายตรงดำเนินธุรกิจอย่างมีจรรยาบรรณ และเต็มเปี่ยมไปด้วยศักยภาพในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทย สมาคมฯ ตระหนักถึงการให้ความรู้ กับนักธุรกิจอิสระเป็นอันดับต้น ๆ จึงได้มีการจัดงานนี้ขึ้นมา เพื่อเป็นประโยชน์ให้กับนักธุรกิจอิสระ ผู้ประกอบการ และประชาชน”

อย่างไรก็ตาม นายกสมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทย ยังได้วิเคราะห์ถึงภาพรวมเศรษฐกิจในปี 2566 ว่า ปีนี้เป็นโอกาสของทุกธุรกิจ เริ่มเห็นนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยว จากประเทศจีน เงินจะสะพัดมากขึ้นในไตรมาสแรกของปีนี้ และมีกระแสเงินสดเข้าในทุกอุตสาหกรรม เป็นปีทองของทุกบริษัท ที่สำคัญในเทรนด์ที่จะเกิดมากขึ้น คือ การทำธุรกิจผ่านออนไลน์ มีเดีย แพลตฟอร์ม หลาย ๆ ธุรกิจต้องปรับตัวไปสู่ออนไลน์มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการทำธุรกิจผ่านช่องทางออฟไลน์ยังเป็นเรื่องสำคัญที่ยังต้องมีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นสร้างความสัมพันธ์ การลงพื้นที่ เป็นต้น

ส่วนผลิตภัณฑ์ที่จะได้รับความนิยมมากสุด เชื่อว่ายังคงเป็นเทรนด์ ได้แก่ กลุ่มผิวพรรณ กลุ่มชะลอวัย กลุ่มดูแลสุขภาพ ยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ยังได้รับความนิยม และอีกหนึ่งตลาด คือ ผลิตภัณฑ์ช่วยการนอนหลับที่เป็นปัญหาของคนในยุคปัจจุบัน และเทรนด์ผู้สูงอายุ เพราะเชื่อว่า ประเทศไทยภายใน 3-5 ปีข้างหน้าจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ Super Aging Society เพราะอัตราผู้สูงอายุน่าจะเกิน 23% ขึ้นไป ดังนั้น ธุรกิจที่เกี่ยวกับผู้สูงอายุจะเป็นเทรนด์ที่เติบโตมากในอนาคต มากไปกว่านั้น ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ทานเพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน โดยเฉพาะเทคโนโลยีทางชีวภาพจะมาแรง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและวิตามินที่มาจากพืชและโปรตีนทางเลือกจะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะตลาด Planted Base ที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก

Loading